"อนุสรณ์" เตือน ถ้าเดินหน้าซื้อเรือดำน้ำ ประชาชนจะลงถนน

24 ส.ค.2563  โฆษกพรรคเพื่อไทย นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด กล่าวถึงกระแสคัดค้านกองทัพเรือ (ทร.) จัดซื้อเรือดำน้ำจากสาธารณรัฐประชาชนจีนอีก 2 ลำ วงเงิน 22,500 ล้านบาท ขยายตัวออกไปเรื่อยๆ แม้แต่พรรคร่วมรัฐบาลยังเรียกร้องให้ยกเลิก ว่า ประชาชนได้รับข้อมูลเรื่องเรือดำน้ำน้อยมาก และไม่เคยตรงกัน

ตอนแรกขอซื้อเรือดำน้ำชั้น Yuan Class รุ่น S-26T ราคาลำละ 18,000 ล้านบาท 2 ลำ ในโปร ซื้อ 2 แถม 1 ราคารวม 36,000 ล้านบาท ต้องรีบซื้อเดี๋ยวไม่ทันโปรนี้ ต่อมาบอกว่า ลำละ 12,000 ล้านบาท แต่ต้องซื้อ 3 ลำ แต่ซื้อจริงลำแรกใช้งบประมาณปี 60 จำนวน 1 ลำ ราคา 13,500 ล้านบาท จะใช้งบปี 64 ซื้ออีก 2 ลำ งบประมาณ 22,500 ล้านบาท รวมกันแล้ว 36,000 ล้านบาท ทำให้เห็นถึงเจตนาเล็งเห็นผลว่า ต่อให้ต้องเดินข้ามความอดอยากของประชาชนอย่างไร ก็ต้องได้จ่าย 36,000 ล้านบาท ขาดแม้แต่บาทเดียวไม่ได้ หลายข้ออ้างฟังไม่ได้

อ้างเพื่อนบ้านมีเรือดำน้ำ เราเลยต้องมีไว้บ้าง แล้วถ้าเพื่อนบ้านทดสอบขีปนาวุธ เรามิต้องทดสอบขีปนาวุธด้วยหรือ หรือข้ออ้าง นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปสัญญากับจีน ยิ่งฟังไม่ได้ เพราะขนาดสัญญากับคนไทย ยังไม่ทำตามสัญญาเลย ซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ได้มากมาย แต่น้ำท่วมต้องขอรับบริจาค เรือดำน้ำลำแรกกว่าจะได้รับปี 2567 ถ้าซื้อมาอีก 2 ลำไม่รู้จะได้รับเมื่อไหร่ ในขณะที่เทคโนโลยีไปไกลถึงเรือดำน้ำล่องหน เรือดำน้ำไทยยังใช้น้ำมันดีเซลอยู่เลย พรรคเพื่อไทยขอยืนยัน จะคัดค้านให้ถึงที่สุด ทั้งในวาระที่ 2 หรือในกรรมาธิการงบประมาณคณะใหญ่ รวมถึงการอภิปรายแบบไม่ลงมติตามมาตรา 152 วาระนี้ต้องถอย ถ้าเดินต่อจะทัวร์ลงหนัก ซึ่งจะไม่ลงเฉพาะในโลกโซเชียล แต่จะลงถนนทั้งประเทศ 

ทั้งนี้ นายอนุสรณ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด ระบุ ไม่ได้สั่งจัดทำ คลิปเพลง "ธงชาติ" ข้าราชการนำมาลงช่อง YouTube เอง ว่า คนไทยเหลือพื้นที่รับฟัง พล.ท.สรรเสริญ น้อยลง ตั้งแต่ จีที 200 ผังล้มเจ้า วันนี้กำลังพยายามจะทำให้กรมประชาสัมพันธ์ เป็นเหมือนหนังสือพิมพ์ดาวสยาม วิทยุยานเกราะ บ่มเพาะความเกลียดชัง ด้อยค่าแพร่มลทิน นักเรียนนิสิตนักศึกษา แย่งงาน ไอโอ 300 ของทหารมาดำเนินการเองหรือไม่ หาก นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีความจริงใจเข้าใจความสำคัญของปัญหา ต้องย้ายพล.ท.สรรเสริญ พร้อมกับตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง รวมถึงท่าทีของ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ที่ระบุ

ถ้าไม่อยากถูกจับให้ไปจัดชุมนุมทุ่งกุลาร้องไห้ ว่า ตอน กปปส.ชุมนุม เป่านกหวีด ชัตดาวน์ ประเทศ ไม่เห็น ผบ.ตร.ออกมาไล่ หรือประชดประชัน ให้ไปชุมนุมที่อื่นเลย โมเดลการแก้ปัญหาแบบนี้ บ่อนการพนันกลางกรุงไม่รู้ว่าต้องแก้โดยการให้ย้ายออกไปเปิดต่างจังหวัดด้วยหรือไม่ ในความเป็นจริงวันนี้ ประชาชนปลดแอกกระจายไปทั่วประเทศ แทนที่จะจ้องจับแกนนำดำเนินคดี ควรให้นักเรียนนิสิตนักศึกษาได้เข้าถึงสิทธิ เสรีภาพการชุมนุมภายใต้กรอบกฎหมาย ไม่ควรมีการดำเนินการเกินจากกรอบของกฎหมาย ไม่ควรมีการข่มขู่คุกคามทุกรูปแบบ ในวันชุมนุมใหญ่ 19 กันยายน 2563 ผบ.ตร.ควรให้ความมั่นใจว่าจะไม่มีการนำรถตัดสัญญาณการสื่อสารเข้าไปในสถานที่ชุมนุม นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องส่งสัญญาณ ไม่ให้มีการดำเนินการยั่วยุ หรือสร้างสถานการณ์ให้เกิดการเผชิญหน้าทุกกรณี